
เทคนิคการตั้งราคาสินค้าและบริการ ให้ได้กำไรแบบแน่นอน
พ่อค้าแม่ค้าหลายคน อาจจะเคยประสบกับปัญหายอดขายดีมาก แต่กำไรน้อย หรือราคาสินค้าสูง ลูกค้าเลือกซื้อน้อย การตั้งราคาสินค้าและบริการเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนพบเจอ จะตั้งราคาสินเท่าไหร่ดี จะคุ้มกับต้นทุนไหม ราคาสูงเกินไปหรือเปล่า
วันนี้ Kaidoo จึงอยากมาแชร์เทคนิคการตั้งราคาสินค้าและบริการ ที่จะช่วยให้ร้านค้าได้กำไรแน่นอน โดยแบ่งเป็น 3 วิธีด้วยกันคือ ต้นทุน – ตลาด – ลูกค้า
1. ตั้งราคาสินค้าจากต้นทุน
เป็นวิธีแรกเริ่มของร้านค้าทั่วไปในการกำหนดราคาสินค้าขึ้นมาคือ การคำนวณต้นทุนสินค้าที่ใช้ทั้งหมดก่อน ซึ่งรวมถึงต้นทุนแฝงต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงมาคิดว่าต้องเราการกำไรเท่าไหร่ แล้วบวกเข้ากับราคาต้นทุนของสินค้า เช่น คำนวนต้นทุนรวมของลูกชิ้นปิ้ง ต้นทุนไม้ละ 7 บาท ทางร้านอยากได้กำไร 5 บาท ขายราคาไม้ละ 12 บาทเป็นต้น
ข้อดี : คิดคำนวนได้ง่าย มีความยืดหยุ่นในการปรับราคาตามต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น
2. ตั้งราคาสินค้าจากตลาด
โดยเริ่มจากการสำรวจราคาสินค้าหรือบริการที่ใกล้เคียงในตลาด หลังจากนั้น สำรวจความแตกต่างของสินค้าในแต่ละช่วงราคาทั้ง ปริมาณ วัตถุดิบ เช่น เราขายสลัด มีร้านขายสลัดอีกหนึ่งร้านบริเวณใกล้เคียงกันขายจานละ 50 บาท มีเพียงแต่ผักและน้ำสลัด แต่ของร้านเราเป็นสลัด น้ำสลัดให้เลือกหลายรสพร้อมอกไก่ ขายจานละ 70 บาท
ข้อดี : เป็นราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดเดียวกัน คิดคำนวนไม่ยากแต่ต้องคำนึงถึงต้นทุนของร้านค้าเราด้วย
3. ตั้งราคาสินค้าจากลูกค้า
การตั้งราคาสินค้าที่ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของลูกค้าว่า ลูกค้าจะเต็มใจจ่ายเงินซื้อสินค้าบริการแบบนี้ในราคาเท่าไหร่? อาจทำความเข้าใจและหาข้อมูลได้ยากกว่าวิธีอื่น ๆ แต่หากเข้าใจว่าสินค้าและบริการของธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างไรก็จะเป็นประโยชน์ต่อร้านค้าของเราได้มากแน่นอน
ข้อดี : โอกาสขายได้สูง เนื่องจากเป็นราคาที่ลูกค้าพร้อมจ่ายอยู่แล้ว
เทคนิคการตั้งราคาสินค้าและบริการนี้ ทาง Kaidoo หวังว่าพ่อค้าแม่ค้า จะได้รับประโยชน์และสามารถปรับใช้เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจต่อไป พร้อมได้กำไรในการขาย และประสบความสำเร็จในอนาคต
.
.
ที่มา : K SME