
Winning Zone พื้นที่สำหรับผู้ชนะเท่านั้น ทำอย่างไรให้อยู่เหนือคู่แข่ง
ในการทำธุรกิที่มีการแข่งขันสูง แน่นอนว่าเจ้าของธุรกิจทุกคนต้องอยากเป็นที่หนึ่ง หรือผู้ชนะในตลาดนั้น หรือก็คือ Winning Zone โดยจุดที่เรายืนอยู่จะมีทั้ง Winning Zone Risking Zone และ Losing Zone โดยสังเกตได้จาก 3 สิ่งต่อไปนี้
- สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ
- สิ่งที่เราเก่ง
- สิ่งที่คู่แข่งเก่ง
โดยเราแบ่งเป็น 3 วงที่ซ้อนทับกันอยู่ และสามารถสังเกตว่าธุรกิจของเราอยู่ที่จุดยืนไหน
- Winning Zone คือเมื่อไรก็ตามที่สิ่งที่ผู้บริโภคอยากได้กับสิ่งที่เราเก่งมาเจอกันแล้วไม่มีคู่แข่งเลย ยิ่งมีขนาดใหญ่กำไรของธุรกิจเรายิ่งสูง ยอดขายยิ่งเยอะ แสดงว่ามีเราเพียงคนเดียวในตลาดที่ทำขายได้ ขณะที่คู่แข่งทำไม่ได้
- Risking Zone คือ เมื่อเวลาผ่านไป เป็นธรรมดาที่จะมีคู่แข่งเข้ามา พื้นที่ของเราเล็กลง จะทำให้ใหญ่ขึ้นได้อีกก็ด้วยการเพิ่มความเก่งของเรา หรือหาเซกเมนต์ใหม่เพิ่มเติม
- Losing Zone จุดยืนที่เราไม่สามารถทำสินค้า บริการ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้
สิ่งที่จะช่วยทำให้เราสามารถยืนอยู่ในจุด Wining Zone ไปได้อย่างยาวนานคือการใช้อารมณ์เป็นเครื่องมือในการทำการตลาด
thestandard.co
สื่อสารด้วยใจ ใช้อารมณ์เป็นเครื่องมือ
ผู้บริโภคทุกคนซื้อของ 90% ซื้อด้วยอารมณ์ 10% ซื้อด้วยเหตุผล ผู้ประกอบการทั้งหลายก็ควรขายด้วยอารมณ์ ใช้อารมณ์ให้ผู้บริโภคคล้อยตาม จำเป็นต้องสื่อสาร (Communication) อารมณ์บางอย่าง พูดบางอย่างออกไปแล้วโดนใจผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจเราต้องการด้วย เพราะในแง่เทคนิคการออกแบบนั้นลอกเลียนแบบกันได้ แต่อารมณ์ที่แบรนด์มอบให้นั้นสร้างความรู้สึกผูกพันที่ยืนยาวมากกว่า ส่งผลให้ Winning Zone อยู่ไปได้อย่างยั่งยืน
3 สิ่งสำคัญในการก้าวสู่ Wining Zone
- แตกต่าง ธุรกิจเราต้องมีความแตกต่างทั้งในเรื่อง Fumctional และ การใช้ Emotional ในการทำการตลาด ควรเจาะ Niche Market ที่มีความเฉพาะเจาะจง และสร้างความแตกต่างให้สินค้า บริการของธุรกิจ แล้วจึงขยายเติบโตไปในอนาคต
- ตรงกลุ่มเป้าหมาย สื่อสารให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
- ตราสินค้า หรือ Branding มีภาพลักษณ์ที่ชัดเจน สื่อถึงความเป็นแบรนด์ให้ทุกคนเข้าใจ
.
.
ข้อมูลจาก : https://www.youtube.com/watch?v=06zwsClcdIQ